Tuesday, December 14, 2010

Vitamin D มีความสำคัญต่อระดับฮอร์โมนเพศชาย(และการเพาะกาย)

วิตามิน D เป็นกลุ่มวิตามินที่ละลายในไขมัน ซึ่งวิตามิน D ที่พบกันในตลาดมักจะเป็น D2 (ergocalciferol) และ D3 (cholecalciferol) ปกติแล้วเราได้รับวิตามิน D จากการโดนแดด อาหาร และวิตามินเสริม

ถ้าไม่นับวิตามินเสริมแล้วล่ะก็ ผิวหนังคนเราเนี่ยล่ะที่เป็นแหล่งวิตามินที่เยอะที่สุด เพียงแต่ว่าคนสมัยนี้ไม่ได้โดนแดดเท่าที่ควร แถมหลบแดดอีกต่างหาก ส่วนความเชื่อว่าเราได้วิตามิน D จากอาหารเพียงพอในแต่ละวันนั้นเป็นความเชื่อที่ผิด

แหล่งวิตามิน D ที่เรารู้จักดีสุดคือนม โดยปกติแล้วใน 250 มิลลิลิตร จะมีวิตามิน D "ราว" 100iu ซึ่งบ่อยครั้งที่นมนั้นจะมีวิตามินดีน้อยกว่าอัตรานี้ ส่วนปลาที่ไขมันสูงอย่างแซลมอนหรือซาร์ดีนก็มีวิตามินดีเหมือนกัน อยู่ที่ราวๆ 200-300 iu ต่อครึ่งกิโลกรัม

แต่ว่าบ่อยแค่ไหนที่เรากินอาหารวิตามินดีสูงพวกนี้? ในแต่ละวันเราโดนแดดนานแค่ไหน? เมื่อลองนับกันดีๆแล้วผมเชื่อว่ามันไม่เยอะหรอกและไม่พอด้วย ทำให้การทานวิตามิน D เสริมเป็นเรื่องสำคัญ


พวกวารสารวิทยาศาสตร์เองก็ได้ผลวิจัยออกมาเรื่อยๆแล้วว่า การขาดวิตามิน D ส่งผลให้เกิดอาการตั้งแต่ความดันสูง โรคเบาหวาน อาการอักเสบ ฯลฯ แต่ผมจะเจาะจงไปที่ผลกระทบต่อฮอร์โมนเพศชาย

เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา วารสารที่เกี่ยวกับวิทยาต่อมไร้ท่อ (การศึกษาเกี่ยวกับฮอร์โมนในร่างกายคน) ได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาระดับความสัมพันธ์ระหว่างวิตามิน D, ฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) และ SHBG (Sex Hormone Binding Globulin - เป็นตัวที่เกาะฮอร์โมนเพศชาย ทำให้ฮอร์โมนนั้นไม่แสดงผล) งานวิจัยนี้ศึกษาผู้ชาย 2 พันกว่าคนเป็นระยะเวลาหนึ่งปี

เจ้าของงานวิจัยได้เปรียบเทียบกลุ่มผู้ชายที่ได้รับวิตามิน D เพียงพอ กับกลุ่มที่ไม่ได้รับวิตามิน D เพียงพอ พบว่ากลุ่มที่ทานวิตามิน D มีปริมาณ Testosterone สูงกว่า รวมถึงตัวรับ (receptor) เองก็เยอะกว่า และ SHBG มีปริมาณน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ทาน

จริงๆ ผมก็ได้เห็นผลวิจัยมาพักหนึ่งแล้วว่าร่างกายต้องการวิตามิน D มากกว่าที่เราๆคาดกันไว้ โดยเฉพาะเมื่ออวัยวะสำคัญในร่างกายมีตัวรับ Vitamin D ทั้งนั้น ส่วนจริงๆเราจะต้องการวิตามิน D ต่อวันเท่าไหร่นั้น ในงานวิจัยอันหนึ่งได้คาดการณ์ว่าเราต้องการประมาณ 3,000iu - 5,000iu ต่อวัน

แล้วถ้าเป็นปริมาณสำหรับนักเพาะกายล่ะ? ผมเห็นบทความเกี่ยวกับปริมาณวิตามิน D สำหรับการเพาะกายระบุว่าให้ทาน 5,000iu - 10,000iu ต่อวัน แต่ผมก็อยากให้คำนึงว่าคนพวกนี้มีมวลร่างกายใหญ่กว่าพวกเรามาก และร่างกายต้องเผชิญแรงกดดันเสมอทำให้ต้องการสารอาหารมากกว่าตัวเรา

และจนกว่าจะมีงานวิจัยที่ออกมาสนับสนุนเรื่องนี้ ผมคิดว่าวันละ 2,000iu ก็เป็นปริมาณที่เพียงพอและดีต่อสุขภาพแล้ว

No comments:

Post a Comment