Ketogenic Diet ฉบับย่อส่วน (ไดเอ็ทแบบคาร์บต่ำ)

พอดีแว่บผ่านไปที่เว็บพันทิพย์แล้วเห็น "การไดเอ็ทด้วยโปรตีนบริสุทธิ์" เลยคิดว่าอยากจะเขียนข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้หน่อย

Ketogenic Diet คือการไดเอ็ทโดยการกินอาหารประเภทโปรตีนและไขมันตามปกติ โดยจำกัดจำนวนของคาร์โบไฮเดรตไว้ในระดับต่ำหรืองดไปโดยสิ้นเชิง ร่างกายจะเข้าสู่สภาวะเลียนแบบการอดอาหาร ซึ่งจะนำไขมันที่เก็บสะสมไว้มาเผาผลาญซะ

ข้อดีของ Ketogenic Diet คือ ร่างกายจะเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่และไขมันที่รับเข้าไปได้ต่อเนื่อง ทำให้ปัญหาพลังงานส่วนเกินเป็นไปได้ยาก อีกทั้งระดับอินซูลินจะลดต่ำลง ทำให้ความต้านทานอินซูลินลดน้อยลงด้วย (ซึ่งดีต่อสุขภาพ)

ข้อเสียของ Ketogenic Diet คือในช่วงปรับตัว ร่างกายจะไม่มีแรง รู้สึกอ่อนเพลียง่าย และใช้เวลาอาจถึงสามสัปดาห์เพื่อปรับตัวสำเร็จ และเนื่องจากร่างกายเผาผลาญกรดไขมันเป็นพลังงาน ทำให้มีสารเคมีที่เรียกว่า Ketone ในร่างกายมากและถ่ายทอดออกมาผ่านรูขุมขนและลมหายใจได้

ในตำราเว็บพันทิพย์เองก็ตัดย่อเพื่อไม่ให้ซับซ้อนเกินไป ผมคิดว่านั่นก็เป็นเรื่องที่ดีและคิดว่าจะเน้นจุดที่ทางนั้นไม่ได้กล่าว

ก็คือ ปริมาณคาร์โบไฮเดรต

ผมอยากจะอธิบายกระบวนการ ketosis แต่การสังเคราะหฺ์กลูโคสจากโปรตีนและไขมัน รวมถึงปริมาณกลูโคสและKetoneที่สมองใช้เป็นพลังงาน รายละเอียดพวกนี้ทั้งหมดคงใช้เนื้อที่อธิบายราว 300 หน้า A4 ก็เลยจะสรุปสั้นๆ

ว่าถ้ากินคาร์บมากเกิน 100 กรัม/วัน ร่างกายก็จะไม่ใช้พลังงานจากไขมันสะสม
และถ้ากินคาร์บไม่เกิน 100 กรัม/วัน ร่างกายก็จะใช้พลังงานจากไขมันสะสม

ที่กำหนดไว้ที่ 100 กรัม เพราะเราจะได้คำนวณเวลาการกินคาร์บพวกนั้นก่อนออกกำลังกาย
บางคนอาจจะไม่เข้าสู่สภาวะ ketosis ถ้ากินคาร์บ 100 กรัม แต่เพราะมันน้อยมาก ทำให้ร่างกายยังเอาไขมันสะสมมาใช้อยู่ดี

เหตุผลรองๆที่กำหนดไว้ที่ 100 กรัม/วันเพราะว่า
1) เวลาที่กินอะไรได้จำกัด เรามักจะเลือกของที่ดีที่สุด - อย่างเช่นเลือกทานถั่ว ผัก ข้าวซ้อมมือ แทนที่จะทานโดนัทที่น้ำตาลเพียบ
2) ควบคุมแคลลอรี่ที่กินได้สะดวก เพราะคาร์โบไฮเดรตดูดซึมง่ายทั้งหลายทำให้หิวเร็ว พอตัดปัจจัยนี้ออกไปและกินแต่อาหารที่อยู่ท้องอย่างเนื้อสัตว์ ผัก พวกนี้เราก็จะอิ่มนาน
3) พวกคนที่ชอบอ่านฉลากอาหารว่าโปรตีนกี่กรัม คาร์โบไฮเดรตกี่กรัม จะได้เรียนรู้อะไรอีกมากๆ (แต่ผมไม่คิดว่าทุกคนจะอ่านฉลากหรอกมั้ง) อย่าง No-Fat Yogurt ที่ดันใส่น้ำตาลซะเพียบจนให้แคลลอรี่เยอะกว่าโยเกิร์ตธรรมดาอีก

สามเหตุผลข้างบนเนี่ย ผมเรียกว่าโบนัส ส่วนซิกแพ็คกับรูปร่างที่ดีขึ้นน่ะผมเรียกว่าเป้าหมาย